ag3772.com
แต่เข้าใจว่าความที่ปัจจุบัน ผู้คนน่าจะเรียนและรู้ภาษาอังกฤษมากขึ้น การแปล การเขียน และการพูดจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาไทย จึงมีลักษณะของการใช้ กรรมวาจก ตามแบบฝรั่ง คือเห็นเขาเขียนอย่างไร ก็แปลออกมาตรงๆ อย่างนั้น ธานินทร์ กรัยวิเชียร ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งในหนังสือ "ภาษากฎหมายไทย" (พิมพ์ครั้งที่ 11, 2555, หน้า 55) (หนังสือนี้พิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ 2511) ว่า "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีกระแสพระราชดำรัสไว้ในพระราชกฤษฎีกาตั้งวรรณคดีสโมสร พ. ศ. 2457, มาตรา 8 (2) เกี่ยวกับคุณลักษณะของหนังสือที่แต่งดีตอนหนึ่งมีความว่า '... ใช้วิธีเรียบเรียงอย่างใดๆ ก็ตาม, แต่ต้องให้เป็นภาษาไทยอันดี, ถูกต้องตามเยี่ยงที่ใช้ในโบราณกาล, ฤๅในปัตยุบันกาลก็ได้, ไม่ใช่ใช้เป็นภาษาซึ่งเลียนภาษาต่างประเทศ, ฤๅใช้วิธีผูกประโยคประธานตามแบบภาษาต่างประเทศ ฯลฯ'. และอีกตอนหนึ่ง "เมื่อพิจารณาภาษากฎหมายไทยในตัวบทที่แปลมาจากภาษาอังกฤษแล้ว, จะเห็นได้ชัดเจนว่า, ผู้แปลพิถีพิถันไม่ยอมใช้กรรมวาจก (passive voice) โดยไม่จำเป็นเลย. ผู้แปลพยายามแปลโดยรักษาโวหารแบบไทยแท้ไว้โดยตลอด, และใช้กรรตุวาจก (active voice) เป็นประจำ. การใช้ประโยคในกรรมวาจกซึ่งไม่สมควรใช้ในภาษาไทยที่เราพบเห็นกันอยู่เสมอนั้น มิได้มาจากสำนวนในตัวบทกฎหมายไทยที่แปลมาจากภาษาอังกฤษเลย, หากแต่ผู้ใช้แปลหรือเคยชินมากับการใช้ภาษาอังกฤษตามลำพัง.
มันเน่าเสียได้ It could have been rotten. มันอาจจะเน่าเสียมานานแล้ว A book might be sold. หนังสืออาจจะขายได้ A book might have been sold. หนังสืออาจถูกขายมาแล้ว เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะเข้าใจ "การใช้ Past Passive" หรือยังเอ่ย ถ้าเกิดว่านักเรียนยังมีข้อสงสัยสามารถทบทวนบทเรียนเพิ่มเติมได้ที่วีดีโอด้านล่างเลยนะคะ กดปุ่มเพลย์เพื่อทบทวนบทเรียนกันโลด Take care guys! ดูแลตัวเองด้วยน๊า
อย่าตีกันเอง รูป สรรพนามสะท้อน บุรุษ ที่สาม ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ของกริยาที่ปรากฏร่วมกับรูปสรรพนาม ( pronominal verbs) ใช้กับสรรพนาม él, ella, ello, ellos, ellas, usted, ustedes, vos No se atrevían a salir solas. พวกหล่อนไม่กล้าออกไปตามลำพัง ( impersonal pronoun, passive) รูปสรรพนามบุรุษที่สามในรูปประโยคชนิด กรรมวาจก ( passive voice) ( impersonal pronoun) สรรพนามใช้ในประโยคไม่ชี้เฉพาะบุคคล กล่าวโดยทั่วไป Se dice que... กล่าวกันว่า..., มีคนพูดว่า... รากศัพท์ 2 [ แก้ไข] จาก ภาษาสเปนเก่า ge, จาก ภาษาละติน illī, compare ภาษาโปรตุเกส lhe, ภาษาอิตาลี gli), whose pronunciation shifted from /ʒe/ to /ʃe/ in Early Modern Spanish, at which point it was reanalyzed as /se/ (rather than shifting to /xe/ as expected). รูปแบบอื่น [ แก้ไข] ge ( โบราณ) ข้อผิดพลาดสคริปต์: ฟังก์ชัน "template_tags" ไม่มีอยู่ ข้อผิดพลาดสคริปต์: ฟังก์ชัน "template_tags" ไม่มีอยู่ สัมปทานการก ของ él สัมปทานการก ของ ella; สรรพนามแทนบุรุษที่สาม เมื่อทำหน้าที่เป็นกรรมรอง โดยเรียงไว้หน้าสรรพนามแทน ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมตรง หมายถึง แก่เขา, แก่มัน, ใช้เมื่อ le, les ตามด้วย lo, la, los, las เป็นต้น รากศัพท์ 3 [ แก้ไข] คำกริยา [ แก้ไข] รูปที่สะกดผิดของ sé
โครงสร้าง, หลักการใช้ และตัวอย่าง passive voice modals กับประโยค passive ที่มี modal verb – บ่อยครั้งเรามีการใช้ passive voice ร่วมกับ modal verbs (กริยาช่วย) อย่างเช่น will, would, can, could, shall, should, must, เหล่านี้เป็นต้น เรามาดูโครงสร้าง, หลักการใช้ พร้อมกับตัวอย่างประโยค passive voice modals หรือ ประโยค passive ที่มี modal verb กันนะคะ โครงสร้าง passive voice modals The present มีโครงสร้างเป็น modal verb + be + past participle (V3) ใช้พูดถึงสิ่งต่างๆ ในปัจจุบัน หรือ อนาคต (present or future) ตัวอย่างประโยคเช่น This recipe can be made with margarine instead of butter. สูตรนี้สามารถใช้มาการีน(เนยเทียม)แทนเนยได้ The present perfect มีโครงสร้างเป็น modal verb + have been + past participle (V3) ใช้พูดถึงสิ่งต่างๆ ในอดีต (past) ตัวอย่างประโยคเช่น He's very upset. He might have been fired from his job. เขาเป็นทุกข์มาก เขาคงถูกให้ออกจากงาน (เป็นไปได้ว่าเขาถูกให้ออกจากงาน) การใช้ passive voice modals และตัวอย่างประโยค การใช้ passive voice modals กับ ความเป็นไปได้ (Possibility) ตัวอย่างประโยคเช่น Margarine is a butter substitute made with vegetable oils.
Don't throw the litter here. เวลาทำเป็นประโยคแบบ passive จะมีโครงสร้างดังนี้ค่ะ Let + object + be + V. 3 (past participle) Do it yourself. = Let it be done by yourself. Open your book. = Let your book be opened. Don't throw the litter here. = Let the litter not be thrown here. การใช้ passive voice อาจจะถือเป็นเรื่องยากสำหรับคนไทยเพราะเราไม่คุ้นเคยกับประโยคโครงสร้างแบบนี้ แต่ลองฝึกใช้ดูนะคะเพื่อที่เราจะได้ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเจ้าของภาษาค่ะ ^^
การเปลี่ยนโครงสร้างภาษาอังกฤษจาก active voice เป็น passive voice มีประโยชน์มากในการรีไรท์บทความ และการสร้างความน่าสนใจที่แต่งต่างไปจากประโยค active voice โดยทั่วไป ประโยค passive voice คือ ประโยคที่นำกรรมขึ้นมาเป็นประธาน และประธานเป็นผู้ถูกกระทำ เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย เรามาดูตัวอย่างประโยค active voice เทียบกับ passive voice ดังนี้ active voice: Jame writes a letter. แปลว่า เจมส์เขียนจดหมายฉบับหนึ่ง passive voice: A letter is written by jame. แปลว่า จดหมายฉบับหนึ่งถูกเขียนโดยเจมส์ หลักการเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice 1. สลับกรรมของประโยคขึ้นมาเป็นประธาน จากในตัวอย่างข้างต้น กรรมคือ A letter 2. วาง verb to be (is, am, are, was, were) ไว้หน้ากิริยาช่องที่ 3 โดยเลือก verb to be ให้ตรงกับประธานในประโยค และใช้ tense ที่ตรงกับ active voice จะได้ A letter is 3. เปลี่ยนกิริยาแท้ เป็นกิริยาช่องที่ 3 A letter is written 4. ใส่คำบุพบท by ไว้หน้ากรรม A letter is written by 5. สลับประธานของ active voice เปลี่ยนไปเป็นกรรม A letter is written by jame. สอนภาษาอังกฤษ Post navigation ← เพลงปีใหม่ภาษาอังกฤษ 2015 – Happy New Year โครงสร้างของประโยค Passive Voice ในแต่ละ Tense →
ในบางครั้งเวลาอ่านเนื้อเรื่อง ถ้าเราแยกโครงสร้าง passive voice ไม่ได้ แล้วแปลประโยคนั้นๆแบบ active voice จะทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไป ติดตามโครงสร้างของ passive voice ในแต่ละ tense ได้ในตอนที่ 2 ค่ะ
ข้อความที่ว่า: 'ครั้นเช็คนั้นถูกนำไปขึ้นเงินโดยเจ้าหนี้ของโจทก์ไม่ได้... ' 'แม้ว่าข้อเรียกร้องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากความผิดนี้จะได้ถูกชดใช้ให้จนหมดสิ้นไปแล้วก็ตาม... ' ไม่น่าจะมีใช้ในภาษาไทยเลย, ข้อความเหล่านี้เป็นภาษาพันทางโดยแท้. ภาษาไทยของเรานั้น, โดยปกติเราใช้กรรมวาจก (passive voice) แต่เฉพาะเรื่องที่เป็นอัปมงคลเท่านั้น, เป็นต้นว่า: ถูกครหานินทา, ถูกตำหนิ, ถูกลงโทษ, ถูกฆ่า, ถูกจับ, ถูกสอบสวน, ถูกกล่าวหา, และถูกฟ้อง ฯลฯ. กรณีที่จะใช้กรรมวาจกในเรื่องที่เป็นมงคลนั้น, ผู้เขียนยังนึกไม่ออกเลยจนคำเดียวในขณะเรียบเรียงเรื่องนี้.
การใช้ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ (Passive voice) ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ (Passive voice) ถูกใช้เพื่อเน้นบุคคลหรือกรรมที่ถูกกระทำ มากกว่าบุคคลที่เป็นคนกระทำ หรือกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า กรรมได้กลายมาเป็นประธานของประโยค ตัวอย่างเช่น The passive voice is used frequently. (= เราสนใจ passive voice มากกว่าจะสนใจว่าใครจะเป็นคนใช้) The house was built in 1654. (= เราสนใจบ้านมากกว่าจะสนใจว่าใครจะเป็นคนสร้าง) The road is being repaired. (= เราสนใจถนนมากกว่าจะสนใจว่าใครเป็นคนซ่อม) บางครั้งเราใช้ passive voice เพราะเราไม่รู้หรือไม่ต้องการบอกว่า ใครเป็นคนทำสิ่งนั้น I noticed that a window had been left open. Every year thousands of people are killed on our roads. All the cookies have been eaten. My car has been stolen! โดยทั่วไปแล้ว passive voice มักจะถูกนำมาใช้ในเนื้อหาที่เป็นทางการ การสลับจากประโยคธรรมดาที่ประธานเป็นผู้กระทำ (active voice) ให้เป็น passive voice จะทำให้ประโยคนั้น ๆ ขัดเจนและอ่านได้ง่ายขึ้น ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ (Passive) ประธานเป็นผู้กระทำ (Active) A great deal of meaning is conveyed by a few well-chosen words.
Passive Voice เมื่อประธานเป็นผู้ถูกกระทำ ประโยคแบบ passive ใช้เน้นว่าประธานของประโยคเป็นผู้ถูกกระทำหรือเป็นผู้รองรับกริยาที่เกิดขึ้น เราใช้ประโยคแบบนี้กับสถานการณ์ที่ผู้รับการกระทำมีความสำคัญกว่าผู้ที่กระทำหรือในสถานการณ์ที่เราไม่รู้ว่าใครคือผู้กระทำกริยานั้น เน้นสิ่งที่ถูกกระทำมากกว่าผู้กระทำ เช่น The castle was built almost 1000 years ago. ปราสาทถูกสร้างเมื่อเกือบพันปีมาแล้ว (ความสำคัญของประโยค เน้นที่ตัวปราสาทว่าถูกสร้างมานานแล้ว โดยไม่ได้สนใจว่าใครเป็นคนสร้าง) ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ เช่น Her computer was stolen. คอมพิวเตอร์ของหล่อนถูกขโมยเมื่อวาน (ประโยคนี้เราไม่รู้ว่าใครแป็นผู้กระทำกริยาหรือไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ขโมยคอมพิวเตอร์ไป) โครงสร้างของประโยคแบบ Passive Voice สามารถใช้ได้กับทุกช่วงเวลา ทุก tenses จุดสำคัญคือ verb to be + V3 is, am, are + past participle (กริยาช่องที่ 3) was, were + past participle (กริยาช่องที่ 3) will + be + past participle (กริยาช่องที่ 3) is, are, was, was + being + past participle (กริยาช่องที่ 3) has, have + been + past participle (กริยาช่องที่ 3) ตัวอย่างประโยค passive voice The house was painted last week.