ag3772.com
TED-Ed เว็บ TED-Ed เป็นแหล่งรวบรวมบทเรียนเอาไว้มากมาย และยังรวมถึงบทเรียนที่เคยได้รับรางวัลต่างๆ ก็ถูกนำมาไว้ที่นี่หมด นอกจากนี้เรายังสามารถอัพโหลดวิดีโอของตนเองลงไปในเว็บได้ เพื่อเป็นการตั้งประเด็นให้คนมาพูดคุยกันได้อีกด้วย 5. Instructables เว็บนี้จะเน้นวิดีโอเป็นสื่อในการเรียนรู้ในหัวข้อที่ไร้ขอบเขต ที่จะให้เราเพลิดเพลินไปกับการเรียนและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าใครมีความรู้ใหม่ๆ แล้วอยากจะแชร์ก็สามารถโพสต์วิดีโอของตนเองลงในเว็บไซต์ก็ได้เหมือนกัน 6. Project Gutenberg สำหรับเว็บนี้เปรียบเสมือนห้องสมุดออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่มี E-Book ฟรีๆ ให้เราได้ดาวน์โหลดกันมากกว่า 50, 000 เล่ม และถ้าใครอยากจะลองเขียนหนังสือดูบ้างก็สามารถทำได้ โดยการสร้าง E-Book ขึ้นมาได้ในเว็บ และก็สามารถแชร์ให้กับผู้อื่นได้อ่านด้วยเช่นกัน 7. Udemy Udemy เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมบทเรียนเอาไว้มากกว่า 30, 000 บทเรียนด้วยกัน ซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปตามหัวข้อวิชานั้นๆ และบทเรียนในเว็บนี้ยังมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลาโดยผู้เชี่ยวชาญในแขนงวิชาต่างๆ 8. Digital Photography School เว็บนี้เหมาะมากๆ เลยกับคนที่ชื่นชอบในการถ่ายรูป เพราะไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้น หรือมีสกิลในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม เว็บไซต์ Digital Photography School จะช่วยพัฒนาทักษะในการถ่ายรูปของคุณได้เป็นอย่างดี โดยมีทั้งบทความดีๆ และพื้นที่ให้กับผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายรูปมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบกรณ์กันได้อย่างเต็มที่ 9.
Coursera เว็บไซต์นี้มีบทเรียนมากกว่า 800 บทเรียน ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับพวกวิศวกรรมทางการเงิน ประวัติศาสตร์ เทคโนโลยี และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะช่วยทำให้เราได้พัฒนาตัวเองได้ในหลายๆ ด้าน แถมท้ายด้วย TUTOR ME OFFICIAL TUTOR ME เรียนออนไลน์ได้ทุกที่ แหล่งรวมคอร์สเรียนออนไลน์ในรูปแบบ Edutainment จากเหล่าติวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศ ที่จะมาทำให้ความรู้กลายเป็นเรื่องสนุก ข้อมูลเพิ่มเติม บทความที่เกี่ยวข้อง เรียนฟรี! 27 เว็บไซต์ 'ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ' ฝึกฝนทุกวันยิ่งเก่ง เรียนฟรี! รวมเว็บไซต์เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น ได้ด้วยตัวเอง แนะนำ 10 เว็บไซต์แหล่งความรู้ ที่หาไม่ได้จากห้องเรียน ที่มา:
6. โค้ดเว็บไซต์ใช้งานได้ปกติ และสะอาดตา โค้ดเขียนเว็บไซต์ที่ยุ่งเหยิง เก่าล้าสมัย หรือผิดไม่แสดงผลที่ถูกต้อง จะลดการมองเห็นลิ้งค์เว็บไซต์ในหน้า search engine ได้ เวลาที่ฝ่ายการตลาดและนักออกแบบเว็บไซต์อยากทดสอบหรือรู้ประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ เรื่องหลักที่ต้องดูคือ โค้ดเว็บไซต์ของตัวเอง นั่นเอง สำหรับคนที่รู้วิธีทำเว็บไซต์แบบทั่วไป สามารถตรวจสอบโค้ดของเว็บตัวเองได้ด้วยการค้นหา "HTML Validator" ใน google แล้วก็เลือกใช้ได้ตามชอบเลย 7. เว็บไซต์อ่านง่าย ธรรมชาติของผู้ใช้งานเว็บไซต์ส่วนใหญ่ใช้วิธี "สแกน" มากกว่าอ่านเว็บไซต์อย่างละเอียด เจ้าของเว็บสามารถสร้างเว็บไซต์ให้อ่านได้ง่ายขึ้นด้วย 2 วิธี คือ การใช้สีตัดกัน ระหว่างตัวหนังสือและพื้นหลัง การสืบค้นภายในเว็บใช้การเรียงลำดับความสำคัญ เช่น 8.