ag3772.com
ทำสีผมแดง เป็น ผมสีม่วง ด้วยตัวเอง Hair color tutorial - YouTube
รับรู้ถึงการมาของฤดูหนาวได้ดีกว่า มีการวิจัยชิ้นหนึ่งได้เปรียบเทียบผู้หญิงผมแดง 30 คน กับผู้หญิงผมสีเข้ม 30 คน โดยทำการทดสอบปฏิกิริยาการรับความรู้สึกกับอุณหภูมิที่เย็นจัด ซึ่งคนแรกที่เริ่มสั่นเมื่ออุณหภูมิถูกปรับให้ลดลงนั่นเป็น "สาวผมแดง" นอกจากนี้ยังมีการศึกษาชิ้นอื่นๆ ที่สอดคล้องกันว่า สาวผมแดงจะมีความไวต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า จึงรู้สึกร้อนและหนาวได้ไวกว่า สาวผมแดงจึงมักรับรู้ถึงการมาถึงของฤดูหนาวได้เร็วกว่า ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับการที่สาวผมแดงจะมีระดับวิตามินเคที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติน้อยกว่าสาวผมสีอื่นนั่นเอง 2. สังเคราะห์ Vitamin D ได้ดีกว่า ในหนังสือ "The Big Redhead Book" โดย Erin La Rosa บอกไว้ว่า คนผมแดงมักจะมีผิวที่ซีดขาวกว่าปกติจากการที่มีความหนาแน่นของเม็ดสีเมลานินต่ำ ทำให้มีการสังเคราะห์วิตามินดีจากแสงแดดได้ดีกว่าคนผิวเข้ม คนผมแดงจึงสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าคนผมสีอื่นที่มีผิวเข้มกว่า แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือเมืองที่มีแสงแดดน้อย ในทางกลับกันคนผมแดงก็มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังมากกว่า รวมถึงจะเป็นฝ้าและกระได้ง่ายกว่าด้วย 3. ไวต่อความเจ็บปวด แต่ตอบสนองยาแก้ปวดได้ดี มีการวิจัยโดยวิสัญญีแพทย์ ในมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ เมื่อกว่า 20 ปีมาแล้วพบว่า คนผมแดงต้องใช้ยาสลบในปริมาณที่มากกว่าคนผมสีอื่นราว 20% เพราะพวกเขาจะมีความไวต่อการเจ็บปวดที่มากกว่า จึงยากที่จะระงับความรู้สึกได้หากใช้ยาสลบในขนาดเท่าๆ กับคนผมสีอื่น ในอีกทางหนึ่งกลับมีการศึกษาที่พบว่า คนผมแดงมีการตอบสนองต่อยาแก้ปวด pentazocine ที่แพทย์มักให้หลังการผ่าตัดได้ดีกว่า จึงต้องการยาน้อยกว่า ซึ่งก็น่าจะเกี่ยวข้องกับการกลายพันธุ์ในตัวรับฮอรโมน และการตอบสนองต่อฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphins) ที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้นั่นเอง 4.
เสี่ยงโรคบางอย่างน้อยกว่า สำหรับในผู้ชายผมแดง มีการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร British Journal of Cancer ว่า ชายผมแดงมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าชายผมสีอื่นถึง 54% แต่ทั้งนี้โอกาสการเป็นมะเร็งต่อลูกหมากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมาก เพราะการศึกษาของสถาบันเดียวกันนี้ก็บอกไว้ว่า ผู้ชายที่ทำงานนั่งโต๊ะตลอดวันมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่ากลุ่มที่ทำงานนั่งโต๊ะเพียงครึ่งวันถึง 20% และมากกว่าผู้ชายที่ไม่ได้ทำงานนั่งโต๊ะกว่า 28% 5.
เทรนด์สีผม: น้ำตาลมอคค่า (Mocha Brown) อีกหนึ่งโทนสีน้ำตาลแนะนำสำหรับปี 2022 นี้ก็คือ สีน้ำตาลมอคค่า นั่นเอง สีนี้เป็นการผสมผสานโทนสีที่ลงตัวมาก ย้อมแล้วดูเป็นธรรมชาติสุดๆ เหมาะสำหรับใครที่เบื่อผมดำแล้ว แต่ก็ไม่กล้าย้อมสีอื่นที่มันร้อนแรงจนเกินไป ดังนั้นขอแนะนำเป็นโทนสีน้ำตาลมอคค่าเลย สีสวยคลาสสิก ไม่ว่าจะย้อมปีไหนๆ ก็ไม่ตกเทรนด์แน่นอน แถมยังเข้าได้กับทุกคนอีกด้วยนะ 4. เทรนด์สีผม: แอชกากี (Ash Khaki) มาทางด้านโทนสีแอชกันบ้าง โทนแรกที่แนะนำเลยก็คือโทนเขียวแบบแอชกากีค่ะ เรียกได้ว่าย้อมแล้วช่วยเพิ่มความรู้สึกใหม่ๆ ให้กับเราได้เป็นอย่างดี เหมาะในการย้อมเปลี่ยนลุครับปีใหม่ 2022 สุดๆ ค่า เพราะสีนี้เป็นสีที่สวยเก๋ ดูมีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร และสำหรับใครที่ไม่กล้าย้อมเขียวกากีทั้งหัว แนะนำให้ทำเป็นไฮไลท์แบบนี้เลยค่า บอกเลยว่าต๊าชมาก 5. เทรนด์สีผม: แอชเกรย์ (Ash Gray) สีแอชโทนต่อมาที่ก็ปังไม่แพ้กันก็คือ แอชเกรย์ นั่นเอง โดยเฉพาะเมื่อย้อมแบบทูโทนและไฮไลท์หลบในแบบนี้แล้ว บอกเลยว่าดูมีเสน่ห์ม๊ากมากกก เป็นสีที่โดดเด่น ไม่เหมือนใครสุดๆ เหมาะสำหรับใครที่อยากย้อมสีผมแบบเทาขี้เถ้า แต่ไม่กล้าย้อมแบบทั้งหัว เพราะกลัวจะไม่รอด แนะนำให้ย้อมแบบไฮไลท์หลบในเลย รอดแน่นอน แถมต๊าชสุดๆ 6.